Sunday, October 23, 2011

ผี 10 ตัวสิ้นสภาพโดนซิตี้บุกถล่มคารัง 6-1

<><> <> <><> <> <><> <>
© AP Images    
ทีม “เรือใบสีฟ้า” แมนเชสเตอร์ ซิตี้ พิสูจน์ให้เห็นว่าพร้อมสำหรับการเป็นแชมป์พรีเมียร์ลีก เมื่อบุกไปถล่ม “ปีศาจแดง” แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ถึง 6-1 คาโอลด์ แทรฟฟอร์ด




ฟุตบอลพรีเมียร์ลีก (23 ต.ค.54)
แมนฯ ยูไนเต็ด 1-6 แมนฯ ซิตี้
สนาม : โอลด์ แทรฟฟอร์ด
ประตู : 0-1 บาโลเตลลี่ 22, 0-2 บาโลเตลลี่ 60, 0-3 อเกวโร่ 69, 1-3 เฟล็ตเชอร์ 81, 1-4 เชโก้ 89, 1-5 ซิลบา 90, 1-6 เชโก้ 90
ทีม “ปีศาจแดง” แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เปิดศึก “เรือใบสีฟ้า” แมนเชสเตอร์ ซิตี้ คู่ปรับร่วมเมืองที่ก้าวมาเป็นคู่ท้าชิงแชมป์ โดยนั่งแท่นจ่าฝูงในเวลานี้ โดยทั้งสองทีมต่างจัดทัพเต็มแม็กลงเล่นแบบหมาย 3 คะแนนไว้ทั้งคู่
เกมเริ่มต้นมาด้วยความมุ่งมั่นของนักเตะเจ้าบ้านที่เปิดฉากคุมเกมอย่างรวดเร็ว โดยใช้ความเร็วของ แอชลี่ย์ ยัง ขับเคลื่อนทางกราบซ้าย แต่โอกาสได้ทักทายจริงๆมาจริงการเปิดบอลของ รูนี่ย์ ที่วางให้ อันแดร์สัน เข้าเขตโทษแต่ว่าโหม่งออกไป




มิลเนอร์ ได้ยิงระยะ 30 หลาบ้างแต่ไม่ยากสำหรับ ดาวิด เด เคอา ก่อนที่เกมจะบู๊กันอย่างสนุก และมาถึงนาทีที่ 22 แมนฯ ซิตี้ ก็มาได้ประตูออกนำ 1-0 โดยเป็น การขึ้นเกมจากดาวิด ซิลบา จ่ายออกทางซ้ายให้ เจมส์ มิลเนอร์ เติมมาก่อนตบเข้ากลางมาให้ มาริโอ บาโลเตลลี่ วางเท้ายิงเน้นๆเสียบมุมอย่างสวยงาม
แมนฯ ยูไนเต็ด พยายามตั้งหลักกลับมา โดยตัวป่วนยังเป็น แอชลีย์ ยัง ที่ได้ลากตัดมากึ่งยิงกึ่งเปิดวัดใจไปเสาไกล แต่ว่าก็เลยกรอบออกไป ก่อนที่เจ้าบ้านจะพยายามเซ็ตเกมรุกเพื่อเจาะแนวรับทีมเยือนให้ได้ แต่ก็ทำไม่สำเร็จ จบครึ่งแรกจึงยังเป็นฝ่ายตามหลังอยู่
ครึ่งหลังกลับมาลงสนามได้แค่นาทีเดียว แมนฯ ยูไนเต็ด ยิ่งเสียเปรียบเข้าไปอีกเมื่อ แมนฯ ซิตี้ เซ็ตบอลขึ้นมา บาโลเตลลี่ พักบอลให้ ซิลบา โขกขึ้นหน้าต่อ ก่อนสปีดจะไปรับบอลในเขตโทษ ก่อนที่จะโดน จอนนี่ อีแวนส์ ทำฟาวล์เป็นโปรเฟสชันแนลฟาวล์ และกลายเป็นใบแดง แต่โชคดีที่ทีมไม่เสียจุดโทษด้วย
จังหวะฟรีคิกดังกล่าว บาโลเตลลี่ ยิงไปติดกำแพงอย่างน่าเสียดาย ก่อนที่เกมเหมือนจะเข้าทางแมนฯ ซิตี้ ที่ได้เปรียบทุกอย่าง แต่เจ้าบ้านก็แอบโต้กลับมาได้น่ากลัว โดยเป็นโอกาสของ ยัง ที่ได้บอลไหลจากเพื่อนยิงตามน้ำทันที แต่บอลโดนไม่ดีหลุดกรอบออกไป
ความมุ่งมั่นของยัง เหมือนจะปลุกทีมได้ โดยมีจังหวะไปตัดบอลจากมิลเนอร์ ก่อนลุยเข้าเขตโทษแต่สุดท้ายโดนสกัดได้ทัน จากนั้นเจ้าบ้านบุกต่อเนื่อง สมอลลิง มีโอกาสได้เติมมายิงในเขตโทษแต่แฉลบออกไป
แต่สุดท้ายนาทีที่ 60 แมนฯ ซิตี้ ก็มาได้ประตูหนีเป็น 2-0 จากการเซ็ตบอลของ 3 ประสานเจ้าเก่า ซิลบา พักบอลได้ในเขตโทษก่อนดึงจังหวะแล้วไหลต่อให้ มิลเนอร์ แลบไปทางขวาก่อนเปิดไปจุดนัดพบ บาโลเตลลี่ เข้าฮอสประตูที่ 2 ของตัวเองสบายๆ
นาทีที่ 69 สกอร์ยิ่งขาดเข้าไปใหญ่โดยเป็นจังหวะการต่อบอลสุดยอดของทีมเยือน ก่อนจะจบที่การเปิดของ ริชาร์ดส เข้ามาให้ อเกวโร่ เข้าฮอสเป็นประตูนำขาดลอย 3-0 การันตีชัยชนะของแมนฯ ซิตี้ ในเกมนี้แน่นอน
แต่ทางแมนฯ ยูไนเต็ด ยังไม่ยอมง่ายๆและมาได้ประตูตีไข่แตกเป็น 3-1 ในนาทีที่ 81 จากการยิงไกลอย่างสุดงามของ ดาร์เรน เฟล็ตเชอร์ ที่ได้บอลแปะคืนมาให้โดย ชิชาริโต้ ซึ่งลงมาเป็นตัวสำรองก่อนแปเฉือนให้บอลโค้งเสียบสามเหลี่ยม










เจ้าบ้านพยายามจะฮึดกลับมาให้ได้แต่ไม่สำเร็จ และยังมาโดนยิงฝังอีกก่อนหมดเวลานาทีเดียวจากการยิงเผาขนของ เอดิน เชโก้ เป็นสกอร์ 4-1 แต่เท่านั้นยังไม่พอ แมนฯ ซิตี้ ยังมาบวกอีก 2 ประตูช่วงทดเวลาบาดเจ็บจากการหลุดเดี่ยวเข้าไปยิงคนละลูกของ ซิลบา และ เชโก้ สุดท้ายจบเกมด้วยสกอร์ถล่มทลาย 6-1
ข้อมูลจาก : MSN ฟุตบอล วันที่ : 10/23/2011 9:41:00 PM

No comments:

Post a Comment