Tuesday, November 8, 2011
Monday, November 7, 2011
Saturday, November 5, 2011
Friday, November 4, 2011
Thursday, November 3, 2011
Wednesday, November 2, 2011
Tuesday, November 1, 2011
Saturday, October 29, 2011
Friday, October 28, 2011
Thursday, October 27, 2011
Wednesday, October 26, 2011
Monday, October 24, 2011
คำเตือนและวิธีใช้ (แบบฮาๆ)
เอามาให้อ่านดู ขำดีนะ^^ 1. ข้างกล่องยาจุดกันยุงแบบขดยี่ห้อนึงเขียนไว้ว่า “วัตถุมีพิษ ห้ามรับประทาน” ….ผ่างงงงงงง !!! (ใครอยากฆ่าตัวตายด้วยการกินยากันยุงแบบขด ก็ตามใจมันเถอะ) 2. บนถุงขนมขบเคี้ยวยี่ห้อนึง “คุณมีสิทธิ์ได้รับรางวัลโดยไม่จำเป็นต้องซื้อโปรดอ่านรายละเอียดในซอง” (อ้าว..) 3. แปะอยู่บนสบู่ยี่ห้อดัง “วิธีใช้ : เหมือนสบู่ทั่วไป” (ขอบใจนะ) 4. บนกล่องอาหารแช่แข็ง “โปรดอุ่นก่อนรับประทาน” … (ถ้าคนเปิดมันโง่นักก็ให้มันแ-กเข้าไปเถอะ) 5. บนที่เป่าผมยี่ห้อนึงเขียนว่า “ห้ามใช้ขณะหลับ” ..(จะบ้าตาย) 6. พิมพ์อยู่ด้านใต้ของกล่องเค้กที่ขายในห้างดัง “คำเตือน : ห้ามคว่ำกล่อง” ???????? 7. บนกล่องซาลาเปาในร้านสะดวกซื้อ “คำเตือน : อาหารจะร้อนเมื่อนำเข้าไมโครเวฟ” (มันคงเย็นหรอกน๊ะ) 8. บนกล่องเตารีด “ห้ามใช้รีดผ้าขณะที่สวมใส่” ... - -' 9. บนกล่องยาแก้หวัดเด็ก “ห้ามขับรถ หรือคุมเครื่องจักรขณะรับประทานยานี้ ... o_O!! 10. บนกล่องยานอนหลับ “คำเตือน : อาจทำให้ง่วงเมื่อใช้ยานี้” (ทำไมต้องบอกกกกกก...ที่กินก็เพราะกรูอยากง่วงงงงง) 11. บนกล่องไฟประดับฉลองปีใหม่ “ใช้สำหรับภายในหรือภายนอกอาคาร” (ไม่บอกไม่รู้น๊ะเนี่ย -_-') 12. บนกล่องถั่วกระป๋องยี่ห้อดัง “วิธีใช้ : เปิดกระป๋องแล้วรับประทานถั่ว” (ขอบคุณที่บอก (_ _')) 13. บนชุดซุปเปอร์แมนของเด็ก “คำเตือน : คนสวมใส่เสื้อผ้านี้ไม่สามารถทำให้บินได้” (เพิ่งรู้นะเนี่ย -"-!!) | |
Sunday, October 23, 2011
แอนดรอยด์ 4.0 Ice Cream Sandwich สะดวก สวยงาม หล่อมาก
กู เกิลเปิดตัวระบบปฏิบัติการรุ่นใหม่ล่าสุดของแอนดรอยด์ ไอศครีมแซนวิช พร้อมแนะนำโทรศัพท์เครื่องแรกที่ใช้ระบบปฏิบัติการเวอร์ชั่นนี้ Samsung Galaxy Nexus Calling All Speed Demons โชว์จุดเด่นที่หลากหลายด้วยคำขวัญที่ว่า Simple, beautiful, beyond smart
รูปแบบหน้าจอแสดงผลแบบใหม่ที่ง่ายต่อการเรียกใช้งานยิ่งขึ้น รองรับการแสดงผลบนหน้าจอที่มีความละเอียดสูง ให้ความรู้สึกที่ "ทันสมัย" พร้อมปุ่ม Virtual Buttom บนหน้าจอ 3 ปุ่ม ปุ่มย้อนกลับ ปุ่มหน้าหลัก และ ปุ่มแอพล่าสุด
แถบระบบและหน้าจอแสดงการแจ้งเตือนแบบใหม่ ที่สามารถจัดการและแสดงการแจ้งเตือนต่างๆ ได้อย่างหลากหลาย หน้าจอหลักสามารถวาง Widget ที่รองรับการปรับเปลี่ยนขนาดของมันได้ตามความต้องการของผู้ใช้ และ Icon Folder ที่สามารถลากเพื่อรวมไอคอนของแอพพลิเคชั่นต่างๆ ไว้ในนั้นได้ หน้าล็อคสกรีนที่มีการแสดงการแจ้งเตือนข้อความเข้า เพลง สายที่ไม่ได้รับ แก้ใขเรื่องการตอบสนองในการรับสายโทรศัทพ์ให้รวดเร็วขึ้นกว่าเดิม อีกทั้งยังสามารถส่งข้อความตีกลับไปให้คู่สนทนาในกรณีที่ยังไม่สะดวกรับสาย ได้ง่ายขึ้นอีกด้วย
การแตะแล้วลากไปทางซ้ายหรือขวา (Swipe) เพื่อจัดการ Task ต่างๆ ทั้งใน แท็ปเบราเซอร์ หน้าแอพฯล่าสุด หน้ารายการแจ้งเตือน เพื่อจัดการแอพพลิเคชั่นที่เปิดใช้งานอยู่ก็สามารถทำได้อย่างง่ายดาย
การพิมพ์และการสะกดคำ สามารถทำได้ดียิ่งขึ้นด้วยระบบการแก้ไขคำ Cut & Paste ที่สามารถทำได้สะดวกยิ่งขึ้น รวมทั้งการสั่งพิมพ์ด้วยระบบการสังเคราะห์เสียง
Live effect ช่วยแสดงผลลัพย์ของแอ็ฟเฟกให้ได้เห็นกันจะๆ ในขณะที่กำลังส่องกล้องเตรียมถ่ายภาพ
การแชร์สามารถทำได้หล่อยิ่งขึ้น แชร์ภาพหน้าจอให้เพื่อนด้วยการกดปุ่มบนตัวเครื่อง ภาพจะถูกเก็บลงหน่วยความจำภายใน จากนั้นก็สามารถเลือกแชร์ไปยังโซเชียลต่างๆ หรือแก้ไขได้เลยทันทีเพราะมี Photo Editor ในตัว และด้วยแอนดรอยด์บีน (Android Bean) ฟีเจอร์ใหม่ที่ช่วยให้ผู้ใช้แชร์สิ่งที่เปิดอยู่บนหน้าจอให้เพื่อนๆ ได้ง่ายๆ ผ่าน NFC ด้วยการแตะ
Face Unlock การปลดล็อคหน้าจอรูปแบบใหม่ที่จะถูกยัดมาให้เลยในแอนดรอยด์ 4.0 ด้วยการใช้กล้องหน้าส่องเพื่อสังเคราะห์และตรวจสอบว่าใช่ใบหน้าของเจ้าของ เครื่องหรือไม่ "ไม่งั้นก็ไม่ปลดล็อคให้ใช้หรอก"
ยังมีอะไรใหม่ๆ อีกเพียบที่เพิ่มเข้ามาในเวอร์ชั่นนี้ แบบไม่ต้องรอพึ่งแอพจากผู้ผลิตโทรศัพท์มือถือ อย่างเช่น Wi-Fi Deirect และ Bluetooth HDP ที่ช่วยให้ง่ายต่อการเชื่อมต่อเข้ากับจุดให้บริการสัญญาณอินเตอร์เน็ตไร้สาย ที่อยู่ใกล้เคียง เป็นต้น จุดเด่นและลักษณะพิเศษอื่นๆ อีกมากมายที่เพิ่มเข้ามา
กูเกิลพลัส แอพพลิเคชั่น
การถ่ายภาพพาโนรามาที่แสดงภาพตัวอย่างไปพร้อมๆ กับการลากเพื่อถ่ายในทันทีอย่าง สะดวก รวดเร็ว
รูปแบบหน้าจอแสดงผลแบบใหม่ที่ง่ายต่อการเรียกใช้งานยิ่งขึ้น รองรับการแสดงผลบนหน้าจอที่มีความละเอียดสูง ให้ความรู้สึกที่ "ทันสมัย" พร้อมปุ่ม Virtual Buttom บนหน้าจอ 3 ปุ่ม ปุ่มย้อนกลับ ปุ่มหน้าหลัก และ ปุ่มแอพล่าสุด
แถบระบบและหน้าจอแสดงการแจ้งเตือนแบบใหม่ ที่สามารถจัดการและแสดงการแจ้งเตือนต่างๆ ได้อย่างหลากหลาย หน้าจอหลักสามารถวาง Widget ที่รองรับการปรับเปลี่ยนขนาดของมันได้ตามความต้องการของผู้ใช้ และ Icon Folder ที่สามารถลากเพื่อรวมไอคอนของแอพพลิเคชั่นต่างๆ ไว้ในนั้นได้ หน้าล็อคสกรีนที่มีการแสดงการแจ้งเตือนข้อความเข้า เพลง สายที่ไม่ได้รับ แก้ใขเรื่องการตอบสนองในการรับสายโทรศัทพ์ให้รวดเร็วขึ้นกว่าเดิม อีกทั้งยังสามารถส่งข้อความตีกลับไปให้คู่สนทนาในกรณีที่ยังไม่สะดวกรับสาย ได้ง่ายขึ้นอีกด้วย
กูเกิลพลัส แอพพลิเคชั่น
2011-10-19 16:02:56 By |
ยกเลิกการตกชั้น ?
© AP Images |
ริชาร์ด บีแวน ซีอีโอของสมาคมผู้จัดการทีมในลีกอังกฤษ ยอมรับว่าการหลั่งไหลเข้ามาเทคโอเวอร์สโมสรต่างๆ ของนักลงทุนต่างชาติในพรีเมียร์ลีก อาจจะนำมาสู่การสิ้นสุดระบบการตกชั้นและเลื่อนชั้นที่ใช้มานานถึง 123 ปี
วงการลูกหนังเมืองผู้ดีใช้ระบบนี้ในการแข่งขันลีกต่างๆ มาตั้งแต่ปี 1888 ก่อนที่จะกลายเป็นมาตรฐานสากลของลีกฟุตบอลต่างๆ เกือบทั่วโลก และไม่ต้องสงสัยเลยว่ามันทำให้เกมน่าติดตามขึ้น เพราะมันไม่ได้หมายถึงแค่การลุ้นแชมป์หรือพื้นที่ยุโรปเท่านั้น แต่การลุ้นหนีตกชั้นในช่วงโค้งสุดท้ายของฤดูกาลก็มักจะเป็นไคลแม็กซ์เช่นกัน
อย่างไรก็ตาม เวลานี้ 20 สโมสรในพรีเมียร์ลีก มีเจ้าของทีมที่เป็นชาวต่างชาติถึง 10 ทีม และลือกันว่าหลายเจ้าเริ่มๆ มีการพูดคุยถึงความเป็นไปได้ที่จะเปลี่ยนมาใช้สไตล์อเมริกันอย่างเช่นเอ็นบีเอ หรือ เอ็นเอฟแอล ที่ไม่มีการตกชั้นแทนแล้ว
การเคลื่อนไหวดังกล่าวทำให้แฟนบอลลีกอังกฤษส่วนใหญ่หวั่นใจว่าจะเกิดขึ้น ทั้งๆ ที่ก่อนหน้านี้คงไม่มีใครคาดคิดว่าแผนการแบบนี้จะถูกหยิบยกขึ้นมาเป็นประเด็นด้วยซ้ำ
"ตอนนี้มันมีหลายสโมสรที่เจ้าของทีมเป็นคนต่างชาติได้เริ่มคุยกันถึงเรื่องการหลีกเลี่ยงการเลื่อนชั้นและตกชั้นในพรีเมียร์ลีก" บีแวน กล่าว "ถ้าเรามีเจ้าของทีมต่างชาติอีก 4-5 คน เรื่องนี้สามารถเกิดขึ้นได้"
อเมริกันสไตล์เริ่มมีอิทธิพลมากขึ้นในลีกสูงสุดของเมืองผู้ดี หลังจากที่สโมสรยักษ์ใหญ่อย่างแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด (ตระกูลเกลเซอร์), ลิเวอร์พูล (จอห์น ดับเบิลยู เฮนรี่) และ อาร์เซน่อล (สแตน โครนเก้) ต่างก็ถูกควบคุมโดยบริษัทซึ่งมีสำนักงานใหญ่อยู่ในสหรัฐอเมริกา
ขณะที่ Deloitte บริษัทด้านการเงินชั้นนำของโลก ได้ทำนายว่าการที่มีเจ้าของทีมชาวต่างชาติเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากสหรัฐฯ มีแต่จะพยายามหาทางโกยเงินจากค่าลิขสิทธิการถ่ายทอดสดให้มากขึ้น (ซึ่งจุดนี้แผนของการ "หงส์แดง" ที่ต้องการขายลิขสิทธิแยกจากพรีเมียร์ลีก โดนด่าจมหูมาแล้วเมื่อสัปดาห์ก่อน)
ตรงกันข้าม ความเสี่ยงของการตกชั้นได้สร้างความหวาดหวั่นให้กับเหล่านักลงทุน เพราะอย่างที่รู้กันดีกว่าผลประโยชน์ตอบแทนระหว่างพรีเมียร์ลีกกับแชมเปี้ยนชิพ ลีก ต่างกันราวฟ้ากับเหว (เงินรายได้จากทุกทางอาจจะลดลงถึง 10 ล้านปอนด์ (ราว 500 ล้านบาท และไม่แน่ว่าจะต้องใช้เวลากี่ปีกว่าจะกลับมาเล่นในลีกสูงสุดได้อีกครั้ง)
"ถ้าคุณลองดูกีฬาต่างๆ ทั่วโลก ก็จะเห็นได้ว่าเจ้าของทีมต่างก็พยายามที่จะหาวิธีที่จะลงทุนแล้วได้กำไรกันทั้งนั้น คุณจะพบว่าส่วนใหญ่พวกเขาจะชอบไอเดียเรื่องแฟรนไชส์ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง พวกอเมริกันที่ไม่ต้องสงสัยเลยว่ามีอยู่เป็นจำนวนมากที่มองหาความเป็นไปได้ที่จะขยายแฟรนไชส์ของตัวเอง"
"นั่นหมายความว่ามันจะไม่มีการเลื่อนชั้นหรือตกชั้น ซึ่งเห็นได้ชัดว่าจะไม่ใช่เรื่องที่โชคดีสำหรับฟุตบอลอังกฤษ" บีแวน กล่าว
ความเห็นดังกล่าวของบีแวน สอดคล้องกับเซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน กุนซือแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่แม้มีจะมีเจ้าของทีมเป็นชาวอเมริกันเหมือนกัน แต่เขาส่ายหัวคัดค้านกับไอเดียนี้อย่างเต็มที่
"ถ้าคุณลองมองดูแชมเปี้ยนชิพ ลีกในเวลานี้ มันมีอย่างน้อย 8 ทีมที่มีประวัติศาสตร์อันยาวนาน คุณจะบอกพวกเขายังไงว่าคุณจะไม่มีวันได้เล่นในพรีเมียร์ลีกอย่างงั้นเหรอ ? ผมคิดว่ามันเป็นการฆ่าตัวตายของลีกอื่นชัดๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในแชมเปี้ยนชิพ"
"ที่เดียวที่คุณจะทำเงินได้และได้ตระหนักถึงความทะเยอทะยานของคุณคือพรีเมียร์ลีก และคุณไม่สามารถที่จะเอาสิ่งเหล่านั้นออกไปได้จากสโมสรอย่างน็อตติงแฮม ฟอเรสต์, ลีดส์ ยูไนเต็ด, เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด และ เชฟฟิลด์ เวนส์เดย์ ทีมที่ยอดเยี่ยมเหล่านี้เป็นส่วนสำคัญที่ช่วยก่อตั้งฟุตบอลดิวิชั่น 1 ตั้งแต่ปีมะโว้แล้ว" เฟอร์กี้ ที่คุม "ปีศาจแดง" มาถึง 25 ปี กล่าว
ความเห็นที่ตรงไปตรงมาของเฟอร์กี้น่าจะโดนใจแฟนบอลเต็มๆ เพราะสาเหตุที่เกมลูกหนังเมืองผู้ดีได้รับความนิยมสูงสุดไปทั่วโลก ก็เพราะความมี Passion ของแต่ละสโมสร ไม่ใช่สนแต่เรื่องเงินๆ ทองๆ อย่างเดียว
อย่างไรก็ตาม ยอดโค้ชชาวสกอตต์ ไม่ใช่คนที่จะมีหน้าที่ตัดสินว่าจะให้มีหรือไม่มีกฎยกเลิกการตกชั้น เพราะตามกฎของพรีเมียร์ลีกระบุเอาไว้ว่าหากต้องการมีการเปลี่ยนแปลงใดๆ เกิดขึ้น ต้องได้เสียงสนับสนุนจากเจ้าของสโมสรอย่างน้อย 2 ใน 3 ของทั้งหมด หรือ 14 จาก 20 ทีมนั่นเอง
ไม่รู้ว่าอนาคตแผนการนี้จะได้รับไฟเขียวจากบิ๊กบอสของสมาคมฟุตบอลลีกอังกฤษหรือเปล่า แต่ส่วนตัวแล้วเชื่อว่าหากมีการยกเลิกระบบการเลื่อนชั้น-ตกชั้นจริง เสน่ห์ของพรีเมียร์ลีกคงจะหายไปอีกพะเรอเกวียน
ข้อมูลจาก : MSN ฟุตบอล วันที่ : 10/18/2011 11:27:09 AM
ผี 10 ตัวสิ้นสภาพโดนซิตี้บุกถล่มคารัง 6-1
© AP Images |
ฟุตบอลพรีเมียร์ลีก (23 ต.ค.54)
แมนฯ ยูไนเต็ด 1-6 แมนฯ ซิตี้
สนาม : โอลด์ แทรฟฟอร์ด
ประตู : 0-1 บาโลเตลลี่ 22, 0-2 บาโลเตลลี่ 60, 0-3 อเกวโร่ 69, 1-3 เฟล็ตเชอร์ 81, 1-4 เชโก้ 89, 1-5 ซิลบา 90, 1-6 เชโก้ 90
ทีม “ปีศาจแดง” แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เปิดศึก “เรือใบสีฟ้า” แมนเชสเตอร์ ซิตี้ คู่ปรับร่วมเมืองที่ก้าวมาเป็นคู่ท้าชิงแชมป์ โดยนั่งแท่นจ่าฝูงในเวลานี้ โดยทั้งสองทีมต่างจัดทัพเต็มแม็กลงเล่นแบบหมาย 3 คะแนนไว้ทั้งคู่
เกมเริ่มต้นมาด้วยความมุ่งมั่นของนักเตะเจ้าบ้านที่เปิดฉากคุมเกมอย่างรวดเร็ว โดยใช้ความเร็วของ แอชลี่ย์ ยัง ขับเคลื่อนทางกราบซ้าย แต่โอกาสได้ทักทายจริงๆมาจริงการเปิดบอลของ รูนี่ย์ ที่วางให้ อันแดร์สัน เข้าเขตโทษแต่ว่าโหม่งออกไป
มิลเนอร์ ได้ยิงระยะ 30 หลาบ้างแต่ไม่ยากสำหรับ ดาวิด เด เคอา ก่อนที่เกมจะบู๊กันอย่างสนุก และมาถึงนาทีที่ 22 แมนฯ ซิตี้ ก็มาได้ประตูออกนำ 1-0 โดยเป็น การขึ้นเกมจากดาวิด ซิลบา จ่ายออกทางซ้ายให้ เจมส์ มิลเนอร์ เติมมาก่อนตบเข้ากลางมาให้ มาริโอ บาโลเตลลี่ วางเท้ายิงเน้นๆเสียบมุมอย่างสวยงาม
แมนฯ ยูไนเต็ด พยายามตั้งหลักกลับมา โดยตัวป่วนยังเป็น แอชลีย์ ยัง ที่ได้ลากตัดมากึ่งยิงกึ่งเปิดวัดใจไปเสาไกล แต่ว่าก็เลยกรอบออกไป ก่อนที่เจ้าบ้านจะพยายามเซ็ตเกมรุกเพื่อเจาะแนวรับทีมเยือนให้ได้ แต่ก็ทำไม่สำเร็จ จบครึ่งแรกจึงยังเป็นฝ่ายตามหลังอยู่
ครึ่งหลังกลับมาลงสนามได้แค่นาทีเดียว แมนฯ ยูไนเต็ด ยิ่งเสียเปรียบเข้าไปอีกเมื่อ แมนฯ ซิตี้ เซ็ตบอลขึ้นมา บาโลเตลลี่ พักบอลให้ ซิลบา โขกขึ้นหน้าต่อ ก่อนสปีดจะไปรับบอลในเขตโทษ ก่อนที่จะโดน จอนนี่ อีแวนส์ ทำฟาวล์เป็นโปรเฟสชันแนลฟาวล์ และกลายเป็นใบแดง แต่โชคดีที่ทีมไม่เสียจุดโทษด้วย
จังหวะฟรีคิกดังกล่าว บาโลเตลลี่ ยิงไปติดกำแพงอย่างน่าเสียดาย ก่อนที่เกมเหมือนจะเข้าทางแมนฯ ซิตี้ ที่ได้เปรียบทุกอย่าง แต่เจ้าบ้านก็แอบโต้กลับมาได้น่ากลัว โดยเป็นโอกาสของ ยัง ที่ได้บอลไหลจากเพื่อนยิงตามน้ำทันที แต่บอลโดนไม่ดีหลุดกรอบออกไป
ความมุ่งมั่นของยัง เหมือนจะปลุกทีมได้ โดยมีจังหวะไปตัดบอลจากมิลเนอร์ ก่อนลุยเข้าเขตโทษแต่สุดท้ายโดนสกัดได้ทัน จากนั้นเจ้าบ้านบุกต่อเนื่อง สมอลลิง มีโอกาสได้เติมมายิงในเขตโทษแต่แฉลบออกไป
แต่สุดท้ายนาทีที่ 60 แมนฯ ซิตี้ ก็มาได้ประตูหนีเป็น 2-0 จากการเซ็ตบอลของ 3 ประสานเจ้าเก่า ซิลบา พักบอลได้ในเขตโทษก่อนดึงจังหวะแล้วไหลต่อให้ มิลเนอร์ แลบไปทางขวาก่อนเปิดไปจุดนัดพบ บาโลเตลลี่ เข้าฮอสประตูที่ 2 ของตัวเองสบายๆ
นาทีที่ 69 สกอร์ยิ่งขาดเข้าไปใหญ่โดยเป็นจังหวะการต่อบอลสุดยอดของทีมเยือน ก่อนจะจบที่การเปิดของ ริชาร์ดส เข้ามาให้ อเกวโร่ เข้าฮอสเป็นประตูนำขาดลอย 3-0 การันตีชัยชนะของแมนฯ ซิตี้ ในเกมนี้แน่นอน
แต่ทางแมนฯ ยูไนเต็ด ยังไม่ยอมง่ายๆและมาได้ประตูตีไข่แตกเป็น 3-1 ในนาทีที่ 81 จากการยิงไกลอย่างสุดงามของ ดาร์เรน เฟล็ตเชอร์ ที่ได้บอลแปะคืนมาให้โดย ชิชาริโต้ ซึ่งลงมาเป็นตัวสำรองก่อนแปเฉือนให้บอลโค้งเสียบสามเหลี่ยม
เจ้าบ้านพยายามจะฮึดกลับมาให้ได้แต่ไม่สำเร็จ และยังมาโดนยิงฝังอีกก่อนหมดเวลานาทีเดียวจากการยิงเผาขนของ เอดิน เชโก้ เป็นสกอร์ 4-1 แต่เท่านั้นยังไม่พอ แมนฯ ซิตี้ ยังมาบวกอีก 2 ประตูช่วงทดเวลาบาดเจ็บจากการหลุดเดี่ยวเข้าไปยิงคนละลูกของ ซิลบา และ เชโก้ สุดท้ายจบเกมด้วยสกอร์ถล่มทลาย 6-1
ข้อมูลจาก : MSN ฟุตบอล วันที่ : 10/23/2011 9:41:00 PM
Subscribe to:
Posts (Atom)